1. การที่จะให้ข้าราชการครูมีวินัย ควรต้องการกระทําสิ่งใดเป็นประการสําคัญ
ก. เพิ่มโทษแก่ข้าราชการ
ข. พัฒนาระดับจิตใจของข้าราชการครู
ค. จัดอบรมครูสม่ำเสมอและติดตาม
ง. พัฒนากฎหมายและระเบียบปฏิบัติของข้าราชการครู
2. ต่อไปสิ่งนี้สิ่งใดเป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมให้ราชการครูวินัยที่ดี
ก. เงินเดือน
ข. การยกย่อง
ค. ความสํานึกในหน้าที่และความรับผิดชอบ
ง. การประสบความสําเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัว
3. ใครควรมีบทบาทสําคัญในการดําเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการครู
ก. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น
ข. คณะกรรมการข้าราชการครู
ค. บุคลากร โดยเฉพาะบุคลากรทางด้านรักษาวินัย
ง. ข้อ ก และ ค. เป็นคําตอบ
4. ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่อย่างไรในเรื่องของวินัย
ก. เสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีวินัย
ข. ป้องกันมิให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทําผิดวินัย
ค. ถูกทั้งข้อ ก-ข
ง. ผิดทั้งข้อ ก-ข
5. การป้องกันมิให้ข้าราชการกระทําผิดที่น่าจะได้ผลดีที่สุดควรปฏิบัติอย่างไร
ก. รัฐต้องจัดระบบบริหารให้เป็นธรรม
ข. ให้สวัสดิการแก่ข้าราชการอย่าให้เดือดร้อน
ค. ขจัดเหตุที่ก่อให้เกิดการกระทําผิดวินัยของข้าราชการ
ง. ปรับระดับเงินเดือนของข้าราชการให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ
6. ข้อใดมิใช่การเสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีวินัย
ก. การฝึกอบรม
ข. การประกาศเกียรติคุณ
ค. การสร้างขวัญและกําลังใจ
ง. การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
7. ข้าราชการครูปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรืออื่นได้ประโยชน์ที่มิควรจะได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการถือเป็นความผิดสถานใด
ก. ตัดเงินเดือน
ข. ลดขั้นเงินเดือน
ค. เป็นความผิดร้ายแรง
ง. ว่ากล่าวตักเตือนละทําทัณฑ์บน
8. ข้อใดเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ก. รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา
ข. เป็นเลขาธิการพรรคพัฒนาประชาธิปไตย
ค. ดูหมิ่นเหยียดหยามประชาชนผู้มาติดต่อราชการ
ง. ได้รับโทษจําคุกและไม่ใช่โทษฐานประมาทหรือลหุโทษ
9. ครูหม่ำขาดราชการไปเที่ยวกับแฟนติดต่อกันคราวเดียวเกิน 15 วัน ถือเป็นความผิดสถานใด
ก. ร้ายแรง
ข. ตัดเงินเดือน
ค. ลดขั้นเงินเดือน
ง. ว่ากล่าวตักเตือนและทําทัณฑ์บน
10. ข้าราชการจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ ถือเป็นความผิดวินัยลักษณะใด
ก. ความผิดเล็กน้อย
ข. ความผิดร้ายแรง
ค. ความผิดไม่ร้ายแรง
ง. ความผิดปรากฏชัดแจ้ง
11. การลงโทษตัดเงินเดือนร้ายแรงกว่าโทษในข้อใด
ก. ปลดออก
ข. ภาคทัณฑ์
ค. ทําทัณฑ์บน
ง. ลดขั้นเงินเดือน
12. ข้อใดมิใช่โทษผิดวินัยของข้าราชการ
ก. จําคุก
ข. ไล่ออก
ค. ตัดเงินเดือน
ง. ลดขั้นเงินเดือน
13. ผู้บังคับบัญชามีอํานาจสั่งลงโทษข้าราชการกระทำผิดวินัยที่ไม่ยังไม่ถึงขั้นร้ายแรงได้ตามข้อใด
ก. ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน
ข. ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก
ค. ตัดเงินเดือน ไล่ออก
ง. ภาคทัณฑ์ ปลดออก
14. ข้าราชการถูกลงโทษทางวินัยในข้อใดมีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญ
ก. ไล่ออก
ข. ปลดออก
ค. ไล่ออก-ปลดออก
ง. ไม่มีข้อใดที่ถูก
15. ข้าราชการกระทําความผิดวินัยเล็กน้อยและเป็นความผิดครั้งแรก ผู้บังคับบัญชาอาจปฏิบัติตามข้อใดได้
ก. งดโทษโดยภาคทัณฑ์ไว้
ข. งดโทษโดยว่ากล่าวตักเตือน
ค. งดโทษโดยทําทัณฑ์บนเป็นหนังสือไว้
ง. ข้อ ข และ ค เป็นคําตอบ
16. ข้าราชการครูผู้ใด ทอดทิ้งราชการ
ก. นายวิชัย ลากิจโดยไม่จําเป็น 10 วัน
ข. นายประสงค์ ไม่มาปฏิบัติราชการ 10 วัน
ค. นางสาววิไล มาโรงเรียนแต่ไม่สอนนักเรียน
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
17. ข้าราชการขอลาออกจากราชการเพื่อสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรการลาออกมีผลตั้งแต่เมื่อใด
ก. ตั้งแต่วันที่ขอลาออก
ข. ตั้งแต่วันที่แจ้งในใบลาอออก
ค. ตั้งแต่วันที่ถัดจากวันที่ขอลาออก
ง. ถูกทุกข้อ
18. ข้าราชการครูอาจถูกสั่งให้ออกจากราชการในกรณีใด
ก. ขาดคุณสมบัติ
ข. หย่อนความสามารถ
ค. ทดลองปฏิบัติราชการแล้วปรากฏว่าความรู้ ความสามารถและความประพฤติไม่เหมาะสม
ง. ถูกทุกข้อ
19. คณะกรรมการสอบสวนข้าราชการจะต้องทําการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง
ข. ภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการแต่งตัว
ค. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการได้รับทราบคําสั่ง
ง. ภายใน 40 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการได้ทราบรับคําสั่ง
20. การอุทธรณ์คําสั่งลงโทษ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือน ให้อุทธรณ์ภายในกี่วัน นับแต่วันทราบคําสั่ง
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน